ร่าง สมาคมผู้ค้าปลีกไทย นำเสนอผ่าน สภาหอการค้าไทย
23 มีนาคม 2563
เรียน นายกรัฐมนตรี
สำเนา ประธานสภาหอการค้าไทย
เรื่อง การให้การสนับสนุนของภาคเอกชนต่อวิกฤตการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากรัฐบาล
การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกครั้งรุนแรงที่สุดของมวลมนุษยชาติ ภาครัฐและภาคธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลกต่างต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยังไม่เคยประสบมาก่อน เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศไทยในเวลานี้อาจต้องเผชิญกับการเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง สำหรับประเทศไทย มาตรการที่ประเทศจะดำเนินการต่อไป จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดชะตาและอนาคตของประเทศเพื่อจะนำพาให้พวกเราสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของผู้คนนับล้าน และนำไปสู่เส้นทางที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชน สังคมและเศรษฐกิจดีขึ้น
ในฐานะตัวแทนของกลุ่มภาคเอกชนจากหลากหลายอุตสาหกรรม ธุรกิจและผู้ที่เกี่ยวข้อง พวกเราทั้งหลายขอให้การสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการมาแล้ว พวกเรายังใคร่ขอแสดงความสนับสนุนในกรณีที่รัฐบาลจะพิจารณาออกมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเฉกเช่นประเทศบางประเทศอื่นๆ ได้ดำเนินการมาแล้ว และพิสูจน์ได้ว่ามีผลหยุดยั้งหรือชะลอการแพร่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด มาตรการที่บางประเทศได้ดำเนินการมาแล้วเหล่านี้ รวมไปถึงการปิดชายแดนชั่วคราว การปิดธุรกิจโดยทั่วไป (โดยมีข้อยกเว้นตามที่จำเป็น) การจำกัดการเดินทางของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่จำเป็นอย่างเข้มงวด การจัดเตรียมการบริการของหน่วยงานรัฐบาลและสถานพยาบาลอย่างฉุกเฉิน พวกเรามีความเป็นห่วงในเรื่องผลกระทบที่เป็นไปได้ต่อเศรษฐกิจไทยและจำนวนคนงานนับล้าน และใคร่ขอให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อรัฐบาลในการดำเนินการมาตรการที่เข้มงวดขึ้น แม้ว่ามาตรการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการหยุดชะงักงันในกิจกรรมต่างๆ แต่พวกเราเชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะสามารถยังคงอยู่ได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้ และเชื่อว่าการแพร่กระจายของโรคไปเรื่อยๆ ในระยะยาวจะส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมากกว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องวิกฤตการณ์ด้านสุขภาพซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคม เราเชื่อว่าประเทศมีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการดำเนินการเพื่อป้องกันผลกระทบที่เลวร้าย และตามมาตรการที่ให้การสนับสนุนประชาชนและบริษัทไทยที่ได้รับความเสี่ยง ตามที่รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ และให้การสนับสนุนทางด้านการเงินสำหรับภาคอุตสาหกรรมบางประเภท รวมถึงมาตรการอื่นๆ พวกเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและเสนอความเชี่ยวชาญด้านทรัพยากรของธุรกิจของพวกเราเพื่อช่วยก่อให้เกิดผลที่ดีที่สุดต่อสังคม เพื่อให้พ้นวิกฤติการณ์ของไวรัสโควิด-19 และนำประเทศกลับไปสู่สภาวะปกติและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจต่อไป
พวกเราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าพวกเราจะต้องยืนหยัดร่วมกันเพื่อดำเนินการปกป้องสวัสดิภาพของประชาชนชาวไทยนับล้าน สังคมและสถาบันสำคัญต่างๆ ของประเทศที่ยิ่งใหญ่นี้ ผู้นำของภาคธุรกิจจะยืนเคียงข้างกันและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อท่านและรัฐบาลของท่านเพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการจัดการและแก้ปัญหาวิกฤตการณ์นี้
พวกเราใคร่ขอที่จะประชุมหารือกับท่านตามวันเวลาที่ท่านสะดวกที่สุด เพื่อที่จะได้หารือและสร้างความเข้าใจในการที่จะให้การสนับสนุนที่ดีที่สุดกับท่านเพื่อฝ่าวิกฤตการณ์นี้ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการพิจารณาตอบรับจากท่านต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
เอกสารแนบ ประเด็นนำเสนอ ให้นายกรัฐมนตรี วาระเร่งด่วน ช่วงวิกฤติ COVID19
1. ข้อเสนอแนวทางเพื่อให้ พิจารณา เพื่อ ให้เกิดความเข้าใจ ความชัดเจน ในมาตรการเข้มข้นของกลไกภาครัฐ ที่จะประกาศต่อประชาชน ในเรื่องเข้มงวดและจำกัดการเคลื่อนย้ายมวลชนในสถานที่ต่างๆ… ในเขต กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยต้องการเสนอให้ มีการเปิดให้บริการของ ห้างค้าปลีกต่างๆ ที่จำเป็นต้องให้การบริการต่อประชาชน ในประเภทอาหาร
2. ในช่วงมาตรการ เข้มข้น ทางห้างค้าปลีกมีความประสงค์ดังนี้
2.1 ขอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วม และตั้งเป็นศูนย์รวมปฎิบัติการ COVID19 เพื่อให้สามารถสั่งการ เพื่อเป็นการบริการภาคประชาชน ในช่วงปฎิบัติการของมาตราการเข้มข้น เพื่อให้มีการสื่อสารและปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระหว่างที่มีการปิดบางส่วน แต่ภาคผู้ค้าปลีกยังคงเปิดดำเนินการให้บริการ ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาอุปสรรค ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานจากปกติ ให้ผ่อนผันในช่วงวิกฤติ โดยมิต้องให้ร้องขอ และรอคำสั่งจากเบื้องบน ดังนี้ อาทิ เช่น
· การลดขั้นตอน และกระบวนการในแต่ละ กรม กอง ที่ภาคประชาชนไม่ต้องไปติดต่อ โดยเปลี่ยนไปใช้ระบบออนไลน์ได้หรือไม่ โดยให้ยืดออกไปได้ ราชการบอกมาว่า ไม่มีคำสั่งมา จึงต้องดำเนินการต่อไปตามกฎหมาย เช่น ภาษีป้าย ใบอนุญาตต่างๆ ใบอนุญาตซากสัตว์
2.2 ข้อให้มีมาตรการ กระบวนและระบบการจัดการ ด้าน Retailing ส่งสินค้า จะมีผลกระทบ เช่น การเดินทางของพนักงาน การกระจายสินค้า การธนาคารจะต้องเปิดบริการ ปิดไม่ได้
2.3 ขอให้มีมาตราการด้านควบคุมอาชญากรรม รักษาความปลอดภัย ช่วยป้องกันเงินสด ณ ร้านค้าปลีก
2.4 ขอผ่อนผัน ทุกเรือ่ง ของราชการ จากส่วนกลาง จนถึง ท้องถิ่น เช่น ใบอนุญาต ต่างๆ เช่น ใบอนุญาตสะสมอาหาร ต่างๆ ยังต้องให้ดำเนินการตามปกติ
2.5 ห้างๆต่าง กลัวว่า ช่วง ประชาชน แห่ แตกตื่นเข้ามาใช้บริการ จนอาจจะเป็นแหล่ง แพร่เชื้อ ได้ ( ต้องมีหน้าที่ในการจัดเจ้าหน้าที่ ต้องเตรียมให้ keep distance ในทุกๆ ห้างแล้ว ก่อนเข้า เรียงคิว เว้นระยะ ใช้อุปกรณ์วัดไข้ ที่ยังขาดแคลน
2.6 การอนุญาตให้มีการจ้างแรงงานที่เป็นรายชั่วโมง อย่างถูกกฎหมาย และพาร์ทไทม์ได้ เพื่อสามารถสนับสนุนการปฎิบัติงานได้ ในขณะที่อาจมีแรงงานบางส่วนต้องหยุดงานไป
2.7 ขอให้มีการสนับสนุนด้านการเงินและความปลอดภัยพิเศษ เพิ่ม ให้เนื่องจากบุคคลการในภาคค้าปลีกมีการสัมผัสกับมวลชน จึงมีความเสี่ยงที่จะติดโรคมาก ต้องมีการระมัดระวัง COVID19 ในการให้บริการกับลูกค้า